บันทึกจากนักข่าวสาว ที่ปลอมตัวเข้าไปใน รพ.จิตเวชแบล็คเวลล์ (แล้วมาเล่าเรื่องเหล่านี้)
บันทึกจากนักข่าวสาว ที่ปลอมตัวเข้าไปใน รพ.จิตเวชแบล็คเวลล์ (แล้วมาเล่าเรื่องเหล่านี้)
เมื่อปี ค.ศ.1887 (หรือเมื่อ 133 ปีที่แล้ว) เอลิซาเบธ เจน ค็อคเครน (1864-1922) นักข่าวสาวที่ใช้นามปากกาว่า Nellie Bly (เนลลี-บลาย) ลงทุนแกล้งเป็นคนป่วยจิตเวช เพื่อต้องการเข้าไปเก็บข้อมูลในโรงพยาบาลแบล็คเวลล์ ที่ทุกคนร่ำลือกันว่าโหดสุด ๆ หลังเธอถูกท้าทายจากสำนักข่าวต้นสังกัด New York World (ผู้ก่อตั้งรางวัลยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับนักเขียน-พูลิตเซอร์) ซึ่งหากเธอทำได้ นักข่าวโนเนมก็จะได้พื้นที่บนหน้าหนังสือพิมพ์โชว์คอลัมน์ของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าเอลิซาเบธในวัย 23 ปีที่ขณะนั้นกำลังไฟแรงสุด ๆ ตัดสินใจ “ตอบรับทันที”
สถานพยาบาลสำหรับสตรีวิกลจริต ที่ตั้งอยู่บนเกาะ แบล็คเวลล์ (Blackwell’s Island Asylum) การเดินทางไปเกาะต้องใช้เรือเท่านั้นโดยก่อนที่เธอจะถูกส่งตัวไปยัง สถานพยาบาลสำหรับสตรีวิกลจริต แบล็คเวลล์ (Blackwell’s Lunatic Asylum) บนเกาะแบล็คเวลล์ (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น เกาะรูสเวลต์ นครนิวยอร์ก) เธอต้องฝึกทำสีหน้าแบบต่าง ๆ หน้ากระจก รวมถึงต้องออกไปเก็บข้อมูลตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นวัตถุดิบในการแกล้งป่วยด้วย โดยเธอเลือกแสดงออกว่าเป็นผู้ป่วยที่มีอาการหวาดระแวงเป็นหลัก เพราะเธอเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ที่เจ็บป่วยทางจิตจากประสบการณ์เลวร้ายในอดีต
ซึ่งจากการเก็บข้อมูลและฝึกฝน ทำให้ทุกคนที่เห็นเธอเชื่ออย่างสนิทใจว่า “ผู้หญิงคนนี้ป่วยจริง ๆ” นั่นรวมถึงศาลด้วย เพราะหลังจากบรรณาธิการ โจเซฟ พูลิตเซอร์ (Joseph pulitzer) ยื่นเรื่องขอส่งตัวเธอเข้าไปรักษา ศาลก็อนุมัติและพาตัวเดินทางไปยังโรงพยาบาลแห่งนั้นทันที
(ภาพจากในหนังสือ – ขณะฝึกฝนเพื่อให้มีอาการเหมือนกับผู้ป่วยมากที่สุด)
จากบันทึกเธออธิบายว่า : สภาพภายในนั้นแย่มาก โรงพยาบาลแบล็คเวลล์แห่งนี้โหดร้ายกว่าที่คนทั่วไปร่ำลือ หญิงสาวหลายคนที่ถูกส่งมาก็ไม่ได้ป่วยจริง บางคนเป็นชาวต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้แต่ไม่มีเงินจึงต้องมาอยู่ แถมหมอและพยาบาลก็มีความรู้ทางการแพทย์น้อยมาก บางครั้งผู้หญิงทั้งหมดก็ถูกสั่งให้นั่งอยู่ในห้องเฉย ๆ นานกว่าวันละ 12 ชั่วโมง เพราะแพทย์ไม่มีความรู้มากพอที่จะรักษา
ส่วนอาหารก็เลวร้ายสุด ๆ มีทั้งเนื้อเน่า ขนมปังขึ้นรา เราไม่ได้รับอนุญาตให้อาบน้ำ อีกทั้งน้ำที่ใช้ดื่มก็สกปรกจนแทบดื่มไม่ได้ ซึ่งตลอด 10 วัน มีน้อยครั้งมากที่เราจะได้กินอาหารที่มนุษย์ทั่วไปกินกัน
(ศาลเชื่อว่าเธอป่วยจริง – จากนั้นก็ส่งตัวไปยังโรงพยาบาล พร้อมกับผู้หญิงอีก 1 คน ที่มีอาการสมองเสื่อม โดยเธอคือคนที่เนลลีเห็นว่าถูกรักษาอาการดังกล่าวด้วยแก๊ซ
ในกลุ่มผู้ป่วยที่เธอถูกจัดอยู่มีทั้งหมด 45 คน ทุกคนจะได้รับการดูแลจากพยาบาล 2 คน ทุกเช้าพวกเธอจะได้รับการหวีผมให้ แต่อย่าเรียกว่าการดูแลเลย เรียกว่าการทรมานเลยดีกว่า เพราะการหวีนั้นแทบจะทำให้ผมหลุดออกมาทั้งหัว การรักษาก็แทบไม่เคยเกิดขึ้นจริง พวกเธอทั้งหมดถูกสั่งให้ทำความสะอาดทั่วโรงพยาบาล รวมถึงห้องพักของแพทย์และผู้ดูแลด้วย เวลาในแต่ละวันหมดไปกับการเฝ้ารอคอยอาหารดี ๆ สักมื้อให้ตกถึงท้อง
และการปฏิบัติต่อคนไข้อย่างทารุณ ก็ยิ่งทำให้คนที่ป่วยอยู่แล้วป่วยหนักขึ้นไปอีก เช่น การบังคับให้ผู้ป่วยนั่งอยู่ในห้องเฉย ๆ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า – 2 ทุ่ม โดยตลอดเวลาเราจะต้องนั่งหลังตรงห้ามขยับเลยแม้แต่น้อย เพราะแพทย์เชื่อว่าจะช่วยทำให้คนที่มีอาการคุ้มคลั่งหายจากอาการป่วยได้ แต่มันกลับแย่ยิ่งกว่าเดิม เมื่อพวกเขาเริ่มขยับเพราะอาจจะเมื่อยแต่ก็ถูกลงโทษโดยการเอาไม้ฟาดจนหมดสภาพไปต่อหน้าต่อตา
(ซ้าย – หนังสือ) , (ขวา – รักษาที่บางครั้งต้องนั่งนิ่ง ๆ เป็นเวลา 12 ชั่วโมง)
(สุดท้ายก็ครบ 10 วัน บรรณาธิการมารับตัวเธอกลับบ้าน) และเมื่อประสบการณ์ทั้งหมดถูกเผยแพร่ในหน้าหนังสือพิมพ์ปรากฏว่ามันได้รับเสียงตอบรับที่ดีถล่มถลาย บรรณาธิการจึงตัดสินใจให้เธอเขียนเรื่องนี้ไว้ในหนังสือเป็นเล่มไปเลย ชื่อว่า Ten Days in a Madhouse (1887) ซึ่งหากใครสนใจอ่านเนื้อหาในหนังสือ สามารถเข้าไปที่ลิ้งนี้ได้เลยครับ upenn.edu
ซึ่งจากการถูกตีแผ่ความจริงที่ดังชั่วข้ามคืนแบบนี้ จนกลายเป็น Biggest Scoops of HISTORY ทำให้ไม่กี่สัปดาห์ต่อมาสถานที่แห่งนี้ก็ปิดปรับปรุงชั่วคราว เนื่องจากถูกรัฐบาลตรวจสอบ พร้อมได้รับงบเพิ่มอีกกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงทั้งความเป็นอยู่ การดูแลคนไข้ และอาหารต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
และแม้ว่าปัจจุบันโรงพยาบาลสุดโหดแห่งนี้จะไม่ตั้งอยู่แล้ว แต่เรื่องราวสุดสยอง ความกล้าหาญ และการอุทิศตัวของ เนลลี บลาย จะถูกบอกเล่าต่อไปอีกนานแน่นอน นั่นไม่ใช่เพราะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจแบบนี้ แต่เป็นเพราะเธอได้ช่วยชีวิตของหญิงสาวทุกคนในนรกแห่งนั้นไว้นั่นเอง (จบ ครับผม)
คริสตินา ริชชี ผู้รับบทเป็นนักข่าวสาว เนลลี่ บลาย (ภาพจากหนังเมื่อปี 2019)
ประวัติโดยย่อ – Elizabeth Jane Cochran เกิดในปี 1864 (ชาวอเมริกันเชื้อสายไอริช) นอกจากจะเป็นนักเขียนแล้ว ยังมีชื่อเสียงจากการเดินทางรอบโลกตามรอยหนังสือ 80 วัน โดยเธอสามารถทำเวลาได้ใน 72 วัน 6 ชั่วโมง 11 นาที ทำให้ ณ นาทีนั้นเธอคือคนที่ทำสถิติได้ดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ เธอยังทำงานด้านการกุศลเกี่ยวกับสิทธิตรี จนเธอได้รับรางวัล National Woman’s Hall of Fame อีกด้วย (เสียชีวิตในปี ค.ศ.1922 จากโรคปอดบวม ด้วยวัย 57 ปี)
โดยวีรกรรมเรื่องนี้ ยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อ Escaping The Madhouse: The Nellie Bly Story (ปี 2019) ซึ่งได้ คริสตินา ริชชี จาก Addam Family มารับบทเป็น Nellie Bly ซึ่งได้คะแนนจาก IMDB ไปถึง 6.3 คะแนน (แม้จะเป็นหนังไม่เข้าโรง แต่ตลอด 2 ชั่วโมง ก็คุณภาพสุด ๆ ครับ)





ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น