“ซีโนเทย์ แองเจลิสต้า” พื้นที่ใต้น้ำ ณ เม็กซิโกแห่งนี้ เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์

“ซีโนเทย์ แองเจลิสต้า” พื้นที่ใต้น้ำ ณ เม็กซิโกแห่งนี้ เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์

ซีโนเทย์ แองเจลิสต้า (Cenote Angelita) คือชื่อของหลุกลึกแห่งหนึ่ง ที่มีความลึกทั้งสิ้น 57.5 เมตร โดยด้านบนตลอด 30 เมตรจะเป็นน้ำจืด และพื้นที่ด้านล่างที่เหลือจะเป็นน้ำเค็ม พื้นที่สุดประหลาดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองทูลัม ประเทศเม็กซิโก และไม่ได้มีหลุมแบบนี้อยู่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น เพราะยังมีซีโนเทย์อีกกว่า 6 พันหลุม แต่เนื่องจากแองเจลิสต้ามีปรากฏการณ์กลุ่มก๊าซเกิดขึ้นมาก จึงทำให้มันดูพิศวงจนได้รับความสนใจมากกว่าพื้นที่ทั่วไปนั่นเอง


ช่วยขยายความอีกนิดได้มั้ยว่าแท้จริงแล้ว มันเจ๋งยังไง ? หากดูจากภาพทุกคนจะเห็นถึงการแบ่งชั้นระหว่าง ‘น้ำจืดและน้ำเค็ม’ อย่างชัดเจน ซึ่งพื้นที่บริเวณจุดสิ้นสุดของน้ำจืดนี่แหละครับที่น่าสนใจ เพราะเป็นจุดที่เหล่าตะกอน กิ่งไม้ ซากสัตว์ มาทับถมกันจนดูคล้ายกับผืนป่า อีกทั้งยังมีกลุ่มก๊าซที่ปกคลุมทั่วบริเวณช่วยเพิ่มความพิศวงเข้าไปอีก

ซึ่งกลุมก๊าซที่ว่านี้คือ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ (hydrogen sulphide – ไม่มีสี ติดไฟได้ และมีกลิ่นเหมือนไข่เน่า) อยู่ในกลุ่มก๊าซพิษรุนแรงหากสูดดมเข้าไปต่อเนื่องนาน 30 นาทีจะทำให้เสียชีวิตได้ ก๊าซนี้เกิดจากการทับถมกันของซากสิ่งมีชีวิตโปรตีนสูง จนถูกจุลินทรีย์นำเข้ากระบวนการย่อยสลายแบบไม่ใช้อ๊อกซิเจนและปล่อยก๊าซดังกล่าวออกมา (กระบวนการย่อยนี้มีชื่อว่า Anaerobic activity ครับ)

(ขวา – ชามขาตั้งที่เต็มไปด้วยโคปอลและประคำหยก)

กลับมาที่เรื่อง 6,000 หลุมกันบ้าง : แท้จริงคำว่า Cenote เป็นคำจากภาษาสเปน ที่ทับศัพท์มาจากภาษาของชาวมายันอีกต่อหนึ่ง โดยมีความหมายแท้จริงว่า “น้ำที่เต็มไปด้วยพงไพร” โดยแบ่งซีโนเทย์เป็น 3 ลักษณะใหญ่ คือ 1.Pit cenotes (แบบหลุม) 2.Cylinder cenotes (แบบทรงกระบอก-มีพื้นที่สูงล้อมรอบปากหลุม) 3.Cave cenotes (แบบมีถ้ำทอดยาวอยู่ใต้หลุม) ซึ่งทำให้แองเจลิสต้าแห่งนี้จัดอยู่ในลักษณะที่ 1 เพราะเป็นพื้นที่โล่ง และไม่มีถ้ำเชื่อมต่อกับหลุมอื่น ๆ

แล้วหลุมลึกเหล่านี้เกี่ยวข้องกับชาวมายันยังไง ? เนื่องจากบริเวณคาบสมุทรยูกาตันแทบจะไม่มีแหล่งน้ำจืด ทำให้ไม่ว่าซีโนเทย์จะเกิดขึ้นที่ใดก็จะกลายเป็นแหล่งน้ำสำคัญทันที เมื่อชาวมายันผู้ใดพบเจอก็มักจะอาศัยอยู่ใกล้กับซีโนเทย์นั้น ๆ แต่ก็มีแห่งหนึ่งที่ชาวมายันไม่สามารถทำอะไรทะลึ่งกระโดดน้ำลงตู้มได้ นั่นคือ Sacred Cenote (ซีโนเทย์ศักดิ์สิทธิ์) พวกเขาเชื่อว่าหลุมแห่งนี้คือประตูเชื่อมต่อกับโลกหลังความตาย ซึ่งบางครั้งพวกเขาก็จะโยนของมีค่าเพื่อทำการขอพร ทำให้เราค้นพบวัตุถุโบราณหลายชิ้นเยอะแยะเลย


Fact – ซีโนเทย์ ที่ลึกที่สุดในโลกคือ Cenote Zacaton ในเมืองตาเมาลีปัส ประเทศเม็กซิโก (แถมยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหลุมน้ำที่ลึกที่สุดในโลก) วัดความลึกได้ 319 เมตร ปากหลุมกว้าง 116 เมตร ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงกว่า 20 เมตร และการที่หลุมเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟ ในน้ำจึงเต็มไปด้วยกำมะถัน

ทำให้ในปี 1966 นักดำน้ำมืออาชีพ 2 คน (เสียชีวิต 1 คน และอีก 1 คนเกือบเอาชีวิตไม่รอด) เพราะเมื่อทำภารกิจลงไปสำรวจที่ความลึกประมาณ 17 เมตร เขากลับหาเพื่อนของเขาไม่เจอเพราะน้ำนั้นขุ่นเกินที่จะมองเห็น ซึ่งจนถึงตอนนี้แม้จะล่วงเลยมา 50 ปี แต่ยังไม่เคยมีใครพบร่างของนักดำน้ำคนนั้นที่หายไปเลย

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“Nemo Point” (นี่ไม่ใช่จุดหาปลานีโม่) แต่มันคือจุดที่ห่างไกลผู้คนที่สุดในโลก !

รูปภาพ
“Nemo Point” (นี่ไม่ใช่จุดหาปลานีโม่) แต่มันคือจุดที่ห่างไกลผู้คนที่สุดในโลก ! “Nemo Point” (จุดนีโม่) คือบริเวณอ้างว้างกลางมหาสมุทรแปซิฟิค ในเขตซีกโลกใต้ ซึ่งห่างไกลจากแผ่นดินทุกด้านอย่างน้อย 2,700 กิโลเมตร และชื่อสุดโดดเด่นนี้ก็มาจากภาษาลาติน แปลว่า “No one” (ไร้คน) เพราะคงไม่มีคนทะลึ่งไปอยู่ในพื้นที่ปราศจากแผ่นดินแบบนี้แน่นอน ภาพท้องทะเลจริง ๆ ณ จุดนีโม่ เป็นการแข่งขัน The Ocean Race – เรือยอชต์รอบโลกโดยใช้เพียงพลังลม ซึ่งทีม Redbull และอีกหลาย ๆ ทีมก็แล่นเรือผ่านจุดนี้ด้วย และด้วยการที่มันห่างไกลแบบสุด ๆ จึงทำให้ถูกเลือกเป็น “สุสานอวกาศ” เพราะเคยมีการตั้งคำถามว่า “ถ้าสิ่งประดิษฐ์ขนาดยักษ์ของมนุษย์อย่าง ‘สถานีอวกาศนานาชาติ ISS’ เกิดตกสู่โลกและปลดประจำการล่ะ จะนำไปทิ้งที่ไหน ? คำตอบคือ ‘ก็ต้องทิ้งลงในจุดที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้คนที่สุดสิ ข้อมูลทุกอย่างจึงชี้ไปยัง ‘จุดนีโม่’ นี้นั่นเอง” ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1971-2016 มียานอวกาศหรือดาวเทียมหมดอายุที่ใช้งานแล้ว ตกสู่ผิวโลกในบริเวณดังกล่าวมากกว่า 263 ลำ โดยวัตถุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสุสานแห่งนี้คือ สถานีอวกาศเมียร์ (Mir) ของรัสเซีย หนัก 120 ตั...
อ่านเพิ่มเติม