“มาร์เทียลิส ฮิวเรกา” (Ant from Mars) “มดจากดาวอังคาร” ถูกพบในป่าแอมะซอน

“มาร์เทียลิส ฮิวเรกา” (Ant from Mars) “มดจากดาวอังคาร” ถูกพบในป่าแอมะซอน

เมื่อปี 2008 คริสเตียน เรเบลลิ่ง (นักชีววิทยา) และ มันเฟรด ฟาหาก (นักนิเวศวิทยา) ได้ออกสำรวจสิ่งมีชีวิต ณ ป่าแอมะซอน จนได้พบกับมดสุดแปลกที่ยังไม่เคยถูกพบมาก่อน พวกมันเป็นมดที่อาศัยอยู่ใต้ดิน มีขนาดตัวเล็กมาก 3 มิลลิเมตร แถมยังมีสีซีดจางจึงยากที่จะสังเกตได้ และยังเป็นมดตาบอดเพราะไม่มีความจำเป็นต้องใช้ดวงตาเนื่องจากอาศัยอยู่ใต้ดินนั่นเอง


อีกทั้ง เมื่อนำกลับมาตรวจสอบก็พบว่า มันมีลักษณะพื้นฐานตรงกับฟอสซิลบรรพบุรุษของมด อายุ 120 ล้านปีที่เคยพบก่อนหน้านี้ จึงทำให้มันกลายเป็น “ฟอสซิลมีชีวิต” ทันที (เหมือนปลาซีลาแคนท์ ที่ตอนแรกนึกว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่ดันปรากฏตัวว่ายน้ำโชว์เฉยเลย)

ซึ่งจากข้อมูลทั้งหมด คริสเตียน (ผู้ค้นพบ) จึงตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ให้มันว่า “มาร์เทียลิส ฮิวเรกา” (Martialis มาจาก “มดขนาดเล็ก”) – (ส่วนคำว่า Heureka มาจากภาษากรีกโบราณแปลว่า “ฉันหาเจอแล้ว”)


และแน่นอนก็ต้องมีชื่อเรียกทั่วไปด้วย โดยเขาตั้งชื่อให้มันว่า “Ant from Mars (มดจากดาวอังคาร)” เพราะความประหลาดทางกายภาพของมัน + ไอเดียการอยากพลิกแพลงคำของผู้ค้นพบ ดังนี้

Martialis = Martian (ชาวดาวอังคาร) , Heureka = ฉันหาเจอแล้ว (ตามความหมายเดิม) เมื่อรวมกันจึงกลายเป็น “The little Martian has been discovered” (ชาวดาวอังคารตัวน้อยถูกค้นพบแล้ว) จึงเท่ากับว่า “พวกมันเป็นมดที่มาจากดาวอังคาร” นั่นเอง


ปล. การอธิบายชื่อตรงนี้อ้างอิงจากหนังสือ Letters to a Young Scientist เขียนโดย ศาสตราจารย์ Edward O. Wilson (นักชีววิทยา) ซึ่งมีเนื้อหาหลักคือการให้แนะนำแก่บุคคลทั่วไปที่อยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ + เผยแพร่บทสนทนาที่ได้พูดคุยกับนักวิทยาศาสตร์อายุน้อยที่ค้นพบอะไรเจ๋ง ๆ ในหลากหลายสาขา ครับผม

Fact – หากเหนื่อยนักก็พักหน่อย เพราะแม้กระทั่งมดที่ทำงานตลอดเวลา ยังแบ่งเวลาพักผ่อนให้ตัวเองเลย – จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา ที่ทำการศึกษารูปแบบการนอนของมดแต่ละวรรณะ พบว่า เมื่อมดงานทำหน้าที่ของตัวเองเสร็จ มันจะงีบหลับไม่เกิน 2 นาที เฉลี่ย 250 ครั้งต่อวัน รวมเป็น 4 ชั่วโมง 48 นาทีต่อวัน ส่วนราชินีจะงีบเฉลี่ยครั้งละไม่เกิน 6 นาที 90 ครั้งต่อวัน หรือ 9 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว

เหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกมันต้องพักผ่อนแบบหลับ ๆ ตื่น ๆ ถี่ขนาดนี้ก็เพราะ การเฝ้าเวรยาม + เรียกประสิทธิภาพของร่างกายให้กลับมาเต็มร้อยเหมือนตอนก่อนเริ่มทำงาน (งานนี้เสร็จหลับ-ตื่นมาทำงานต่อ วนไปเรื่อย ๆ) และยังพบอีกว่า ตัวที่พักผ่อนมากกว่า จะมีอายุขัยยืนยาวกว่าตัวที่พักผ่อนน้อยกว่า 2 เท่าเลยล่ะครับ

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

“Nemo Point” (นี่ไม่ใช่จุดหาปลานีโม่) แต่มันคือจุดที่ห่างไกลผู้คนที่สุดในโลก !

รูปภาพ
“Nemo Point” (นี่ไม่ใช่จุดหาปลานีโม่) แต่มันคือจุดที่ห่างไกลผู้คนที่สุดในโลก ! “Nemo Point” (จุดนีโม่) คือบริเวณอ้างว้างกลางมหาสมุทรแปซิฟิค ในเขตซีกโลกใต้ ซึ่งห่างไกลจากแผ่นดินทุกด้านอย่างน้อย 2,700 กิโลเมตร และชื่อสุดโดดเด่นนี้ก็มาจากภาษาลาติน แปลว่า “No one” (ไร้คน) เพราะคงไม่มีคนทะลึ่งไปอยู่ในพื้นที่ปราศจากแผ่นดินแบบนี้แน่นอน ภาพท้องทะเลจริง ๆ ณ จุดนีโม่ เป็นการแข่งขัน The Ocean Race – เรือยอชต์รอบโลกโดยใช้เพียงพลังลม ซึ่งทีม Redbull และอีกหลาย ๆ ทีมก็แล่นเรือผ่านจุดนี้ด้วย และด้วยการที่มันห่างไกลแบบสุด ๆ จึงทำให้ถูกเลือกเป็น “สุสานอวกาศ” เพราะเคยมีการตั้งคำถามว่า “ถ้าสิ่งประดิษฐ์ขนาดยักษ์ของมนุษย์อย่าง ‘สถานีอวกาศนานาชาติ ISS’ เกิดตกสู่โลกและปลดประจำการล่ะ จะนำไปทิ้งที่ไหน ? คำตอบคือ ‘ก็ต้องทิ้งลงในจุดที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้คนที่สุดสิ ข้อมูลทุกอย่างจึงชี้ไปยัง ‘จุดนีโม่’ นี้นั่นเอง” ซึ่งนับตั้งแต่ปี 1971-2016 มียานอวกาศหรือดาวเทียมหมดอายุที่ใช้งานแล้ว ตกสู่ผิวโลกในบริเวณดังกล่าวมากกว่า 263 ลำ โดยวัตถุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสุสานแห่งนี้คือ สถานีอวกาศเมียร์ (Mir) ของรัสเซีย หนัก 120 ตั...
อ่านเพิ่มเติม